สำหรับนางกวักนั้นเธอเป็นลูกสาวของพระยาปู่เจ้าเขาเขียวเป็นหญิงสาวที่มีความงดงามเธอจะมีลักษณะของการแต่งกายคล้ายกับหญิงในสมัยโบราณนั่นก็คือการนุ่งโจงกระเบน ห่มผ้าสไบเฉียงและมีการไว้ผมยาวประบ่า ใครได้บูชาก็จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองเลยคนที่บูชาส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งเรื่องราวของนางกวักนั้นว่ากันว่าเป็นเรื่องราวของชาวฮินดูที่เล่าขานเรื่องนี้กันมาอย่างยาวนาน
โดยมีเรื่องเล่ากันว่า ณ เมืองแห่งหนึ่ง นางกวักนั้นมีชื่อเดิมว่านางสุภาวดีเธอมีพ่อแม่เป็นพ่อค้าแม่ค้าซึ่งพ่อของเธอนั้นมักจะมีเกวียนเพื่อใส่สินค้านำไปขายตามเมืองต่างๆซึ่งบางครั้งหน้าสุภาวดีก็มักจะติดตามพ่อของเธอเดินทางไปค้าขายกับพ่อของเธอด้วยโดยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่นางสุภาวดีนั้นเดินทางไปค้าขายกับพ่อของเธอที่เมืองหนึ่งได้ไปพบเจอกับ
พระกัสสปะซึ่งท่านได้เป็นอริยสงฆ์และท่านได้บรรลุโสดาบันเป็นที่เรียบร้อยแล้วนางสุภาวดีมักจะไปนั่งฟังท่านแสดงพระธรรมเทศนาอยู่เป็นประจำทุกครั้งที่นางสุภาวดีเดินทางไปพร้อมกับพ่อแล้วเจอว่าท่านอยู่ที่เมืองดังกล่าวนางก็จะเข้าไปทำความเคารพกราบไหว้และมาฟังธรรมเทศนาจนในที่สุดพระกัสสปะรู้สึกชื่นชมในตัวนางที่มีความ สนใจในรสพระธรรมจึงได้ให้พรแก่นางและครอบครัวต่อมาเมื่อนางเดินทางไปกับพ่อซึ่งเดินทางไปอีกเมืองหนึ่งก็ได้ไปเจอกับพระสีวลีซึ่งท่านก็เป็นพระที่บรรลุอรหันต์เช่นเดียวกันซึ่งนางสุภาวดีเองก็ได้มีโอกาสมาฟังธรรมของพระสีวลีอยู่บ่อยครั้งจนพระสีวลีเอง
ก็ได้ให้พรกับนางเช่นเดียวกันซึ่งทุกครั้งที่นางเดินทางตามพ่อไปค้าขายยังเมืองต่างๆเมื่อนางได้พบเจอกับพระสีวลีหรือแม้แต่พบเจอกับพระกัสสปะนางก็จะเข้าไปฟังธรรม ทุกครั้งไปจนทำให้นางสุภาวดีนั้นแตกฉานในรสพระธรรมและที่สำคัญทุกครั้งที่นางสุภาวดีเข้าไปฟังธรรมทั้งพระกัสสปะ และพระสิวลีต่างก็จะให้พรกับนางทุกครั้ง ซึ่งด้วยพรของพระที่ให้นางสุภาวดีนี่เอง
ทำให้ผลบุญนั้นส่งไปถึงพ่อของนางที่ไปค้าขายที่ไหนพ่อของนางสุภาวดีก็จะขายของหมดได้กำไรเป็นกอบเป็นกำจนทำให้ฐานะทางบ้านจากที่เคยยากจนก็มีฐานะร่ำรวยขึ้นมาทำให้ชาวบ้านนั้นต่างก็พากันชื่นชม โดยพรที่นางสุภาวดีได้รับจากพระสงฆ์ทั้ง 2 องค์นั้นก็จะเป็นพรเกี่ยวกับเรื่องของการเจริญรุ่งเรืองค้าขายร่ำรวยดังนั้นเมื่อนางสุภาวดีเสียชีวิตลงชาวบ้าน
จึงได้พากันสร้างรูปปั้นของนางสุภาวดีขึ้นมาเพื่อ ที่ว่าหากนางสุภาวดีได้ไปอยู่กับใครก็จะช่วยเหลือให้คนๆนั้นค้าขายได้ดีและนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเราจึงมักจะเห็นรูปปั้นของนางสุภาวดีนั้นไปอยู่ตามลิงค์ของร้านค้าต่างๆโดยคนส่วนใหญ่ก็จะนำน้ำแดงมาถวายให้นางสุภาวดีและมีการเปลี่ยนชื่อนางสุภาวดีใหม่ว่าเป็นนางกวักนั้นเอง
ได้รับการสนับสนุนโดย ีดฟิำะ