ประวัติจังหวัดลำพูนในยุคล้านนา สำหรับข้อมูลของจังหวัดลำพูนก่อนที่จะมาเป็นจังหวัดลำพูนในปัจจุบันนั้นแต่เดิมก็เคยเป็นพื้นที่ธรรมดามาก่อนก่อนที่จะมีการสร้างเป็นเมืองขึ้นมาซึ่งชื่อเมืองครั้งแรกของจังหวัดลำพูนก็คือหริภุญชัยนั่นเอง
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เมืองฮารีภุญชัยมีความรุ่งโรจน์มาอย่างยาว นานถึง 6 ทศวรรษด้วยกันก็ถึงเวลาที่ต้องสิ้นแสงอัสดงลงเนื่องจากว่าถูกเจ้าผู้ครองแขวนหิรัญนครเงินยางได้ยกทัพมาตีเมืองซึ่งในสมัยนั้นผู้ที่ดูแลแคว้นดังกล่าวก็คือพญามังรายนั่นเองดังนั้นเมืองฮาริภุญชัยจึงสิ้นสุดความรุ่งเรืองในช่วงปีพ.ศ 1824
สาเหตุที่ทำให้พญามังรายเข้ามาตีเมืองหริภุญชัยนครนั่นก็เพราะว่าในสมัยงั้นเมืองหริภุญชัยเป็นเมืองที่มีความรุ่งโรจน์
มีความอุดมสมบูรณ์ทำให้หลายเมืองต้องการที่จะเข้ามาครอบความอุดมสมบูรณ์นี้อย่างไรก็ตามหลังจากที่พญามังรายสามารถตีเมืองหริภุญชัยได้แล้วแต่พระองค์ก็ไม่ได้มีการย้ายมาอยู่ที่เมืองหริภุญชัยเนื่องจากว่าพระองค์มองว่าเมืองหริภุญชัยนั้นเป็นเมืองขนาดเล็กและชัยภูมิก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่
ดังนั้นพระองค์จึงไปตั้งราชธานีการปกครองไว้อยู่ที่เวียงชะเวชหรือเวียงกุมกามนั่นเองส่วนเมืองหริภุญชัยที่เป็นเมืองขนาดเล็กนั้นพระยามังรายก็ได้มีการมอบอำนาจให้คุณฟ้าเป็นผู้ดูแลปกครองเมืองแทน
เนื่องจากในสมัยอดีตนั้นเมืองหริภุญชัยเป็นศูนย์รวมทั้งเศรษฐกิจ ศิลปวัฒนธรรมและศาสนา
ดังนั้นพยามมังรายจึงเห็นความสำคัญโดยมีการรวบรวมผนึกแว่นแคว้นต่างๆที่อยู่ใกล้เคียงอย่างเช่นแคว้นโยนกให้มาเป็นแคว้นเดียวกันทั้งหมดโดยมีการตั้งเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางแต่ยังคงให้ความสำคัญกับเมืองหริภุญชัยเหมือนเดิม
เนื่องจากว่ามีความสำคัญทางด้านพระพุทธศาสนาดังนั้นในทุกๆปีจึงมีพระมหากษัตริย์ที่ปกครองเมืองเชียงใหม่ทุกๆเพื่อองค์จะต้องเข้ามากราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมีการบูรณะซ่อมแซมพระธาตุหริภุญชัย และเนื่องจากว่าศูนย์กลางการปกครองนั้นอยู่ที่เชียงใหม่ดังนั้นการปกครองของเมืองหริภุญชัยเดิมจึงมีการปกครองเข้าสู่ยุคล้านนานั่นเอง
ดังนั้นเราสามารถกล่าวได้ว่ายุคล้านนาของจังหวัดลำพูนนั้นเป็นยุคที่มีพระยามังรายเป็นผู้เริ่มก่อตั้งยุคล้านนาขึ้นมาซึ่งในยุคล้านนานี้เองทั้งด้านเพื่อพุทธศาสนานั้นก็ยังคงมีความเจริญรุ่งเรืองเนื่องจากว่าพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์ล้านนานั้นทุกพระองค์ต่างก็เห็นความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องของศาสนาเป็นอย่างมากเช่นกันไม่ว่าจะเป็นการที่มีการสร้างพระธาตุเจดีย์ทรงลังกาหรือเรียกว่าทรงพระคลังหรือแม้แต่การที่มีการ นำทองมาบุองค์พระธาตุเจดีย์เป็นทองแดง เป็นต้น
อย่างไรก็ตามในช่วงประมาณปีพ.ศ 1951 นั้นซึ่งยกนั้นมีการปกครองโดยพระยาแสนเมืองมาเป็นยุคที่มีการทำนุบำรุงเกี่ยวกับเรื่องของพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมากเพราะพระองค์นั้นได้มีการนำทองแผ่นหนัก 252 กก. มาทำการหุ้มพระบรมธาตุเจดีย์หริภุญชัยอีกด้วย
สนับสนุนเนื้อหาโดย www.ufabet.com เริ่มเดิมพัน