สาวจีนหลอกว่าตัวเองป่วย มีการเปิดเผยออกมาจากเว็บไซต์ของต่างประเทศเมื่อวันที่ 7 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ทำให้คนทั้งประเทศที่ได้อ่านเรื่องนี้ต่างก็พากันชอบมากเมื่อมีการเปิดเผยเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอนั้นปัจจุบันอายุ 35 ปีแล้ว
โดยเรื่องราวของหญิงสาวรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเธออยู่กับครอบครัวหนึ่งซึ่งดูแลเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดีเนื่องจากว่าเธอเป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวพ่อกับแม่ของเธอนั้นมีรูปอยู่ด้วยกัน 8 คนและแม่ของเธอนั้นก็เอาอกเอาใจเธอมากเป็นพิเศษมาตั้งแต่เด็ก
อย่างไรก็ตามเรื่องราวของหญิงสาวรายนี้เกิดขึ้นเมื่อครอบครัวของเขานั้นได้สูญเสียคุณพ่อไปแม่จึงเป็นเสาหลักที่ต้องดูแลลูกๆทุกคน หญิงสาวรายนี้เธอมีชื่อว่าอุ๋กุ้ยอิง ด้วยความที่แม่ของเธอนั้นดูแลเธอเป็นพิเศษไม่ว่าอยากจะกินอะไรอยากได้อะไรก็จะหามาให้ในสมัยที่เธอยังเป็นเด็กนั้นแม่ของเธอมักจะป้อนข้าวป้อนน้ำเธอเป็นประจำทำให้เธอนั้นคุ้นชินกับการที่ต้องถูกเอาอกเอาใจอยู่สม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตามปัญหาเริ่มเกิดขึ้นมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อช่วงที่อุ๋กุ้ยอิง มีอายุได้ 16 ปีเธอได้ทะเลาะกับพี่ของเธอแล้วถูกพี่ของเธอนั้นตกไป 2 ทีทำให้เธอนั้นไม่พอใจเป็นอย่างมากเพราะเธอไม่เคยถูกทำร้ายแบบนี้มาก่อนหลังจากนั้นเธอก็เริ่มล้มป่วยลง
และในที่สุดเธอก็ไม่สามารถที่จะเดินได้ครอบครัวของอุ๋กุ้ยอิง ได้พาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลซึ่งหมอก็ยืนยันว่าสุขภาพร่างกายของเธอแข็งแรงดีแต่อุ๋กุ้ยอิง กลับบอกว่าเธอเป็นอัมพาตและเธอไม่สามารถลุกหรือทำกิจกรรมใดๆเองได้และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแม่ของเธอและพี่ของเธอก็เป็นคนคอยดูแลเธอมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปนานถึง 20 ปีแม่ของเธอนั้นแก่ชราลงและเสียชีวิตไปคนที่รับผิดชอบดูแลเธอต่อก็คือพี่สาวของเธอ ufabet ซึ่งพี่สาวของเธอนั้นไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมากดังนั้นในช่วงระยะเวลากลางวันจึงต้องออกไปทำงานและจะกลับมาหาอาหารให้กินในช่วงพักเที่ยงและดูแลในช่วงตอนกลางคืน
แต่เราอยู่ๆในปีพ.ศ 2551 ช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมก็ทำให้คนในครอบครัวของเธอนั้นต่างก็พากันชอบเป็นอย่างมากเมื่อพี่สาวของอุ๋กุ้ยอิง จับได้ว่าเธอนั้นไม่ได้เป็นอัมพาตแต่เธอแกล้งทำโดยพี่สาวของเธอนั้นได้แอบตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้จึงทำให้รู้ว่าน้องสาวแกล้งป่วยเป็นอัมพาตมานานกว่า 20 ปี
อย่างไรก็ตามเมื่อพี่สาวของเธอพาน้องสาวไปตรวจที่โรงพยาบาลคุณหมอแจ้งว่าสาเหตุที่ อุ๋กุ้ยอิง มีอาการแกล้งป่วยก็เพราะว่ามีปัญหาด้านสุขภาพจิตซึ่งคุณหมอก็ให้การรักษาจนในขณะนี้เธอสามารถที่จะกลับมาใช้ชีวิตและดูแลตัวเองได้บ้างแล้ว