กลไกลทางดานวัฒนธรรม นี่คือกลไกทางการเมืองของสังคมไทย ในการเลือกราชวงศ์ (เจ้าใน) ที่มีความสามารถขึ้นเป็นกษัตริย์นั้น มีการแข่งขันชิงราชบัลลังก์อยู่เสมอ
โดยมีความสลับซับซ้อนอยู่เบื้องหลังมากกว่าความทะเยอทะยานส่วนตัวของผู้ชิงราชบัลลังก์ ทั้งนี้เพราะหลังจากการรวมศูนย์อำนาจของพระเจ้าไตรโลกนาถแล้ว บทบาทของกษัตริย์ไทยในการปกครองอาณาจักรอยุธยามีความสำคัญมาก ผู้ใดไม่ทำตามความหวังของชนชั้นปกครองก็ไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้ แต่ต้องหลีกทางให้เครือญาติที่จัดตั้งขุนนางและประชาชนต่อสู้เพื่อชิงบัลลังก์ หากกษัตริย์องค์ใหม่ไม่ประสงค์ดี ราชบัลลังก์จะถูกแย่งชิงอีกครั้ง
แหล่งข่าวต่างประเทศในสมัยพระเพทราชาระบุว่า หลังจากการแย่งชิงราชสมบัติ ทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็วราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น การแก่งแย่งชิงราชสมบัติไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ระบบการเมืองการปกครองสั่นคลอนอย่างแท้จริง ผู้เขียนเข้าใจว่าข้อพิพาทในการสืบราชสันตติวงศ์ส่วนใหญ่ในประวัติศาสตร์ไทย
ก็ไม่ต่างจากสมัยพระเพทราชา โดยเฉพาะการพิพาทที่ยุติในไม่กี่วัน ปัจจุบันเรามักจะรับเอาทัศนคติของตะวันตกในการมองหาสถาบันสืบทอดอำนาจทางการเมือง เช่น กฎหมาย สภาตัดสินใจ เป็นต้น โดยเชื่อว่าความขัดแย้งในการสืบทอดอำนาจทำให้ระบบการเมืองการปกครองสั่นคลอน
ชาวตะวันตกแข่งขันกันเพื่อชิงราชบัลลังก์โดยการทำสงครามกันมาหลายชั่วอายุคน (เช่น สงครามดอกกุหลาบในอังกฤษกินเวลาราวหนึ่งศตวรรษ)
แต่ในประเทศไทย ข้อพิพาทเรื่องการสืบสันตติวงศ์ยุติลงได้ในพริบตาเดียว ส่วนใหญ่ถูกรัฐประหารในศาล บางครั้งผู้ปกครองก็ถูกวางยาพิษอย่างลับๆ บางครั้งเขาก็ประหลาดใจและถูกประหารชีวิต และอื่น ๆ แม้ว่าจะเกิดสงครามกลางเมือง แต่ก็กินเวลาเพียงไม่กี่วันก่อนที่จะชัดเจนว่าใครแพ้และชนะ
ระยะเวลาของการเลือกตั้งในปัจจุบันตั้งแต่เริ่มสาดโคลนใส่กันและยิงตัวแทนการเลือกตั้งในหัวนั้นยาวนานกว่าเวลาต่อสู้เพื่อแย่งชิงราชบัลลังก์ในสมัยก่อนมาก เหตุที่วิธีการพิพาทการสืบราชสันตติวงศ์แบบเก่าของไทยเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อยก็เพราะกลุ่มใหม่มิได้คิดละเมิดรัฐธรรมนูญฉบับวัฒนธรรมไทย
พวกเขารู้วิธีที่จะทำให้ทุกอย่างกลับเข้าที่เดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แม้แต่การรัฐประหารที่เกิดขึ้นภายหลังก็เช่นเดียวกัน
จากประสบการณ์นี้ทำให้คนไทยมีภูมิต้านทานการรัฐประหารสูงมาก พวกเขามองว่าการรัฐประหารเป็นวิธีการแก้ปัญหาและเป็นวิธีการปกติของการสืบทอดอำนาจ ไม่ต่างจากการเลือกตั้งหรือเปลี่ยนราชวงศ์ พวกที่ควรหนีก็หนี ผู้ที่ชนะเป็นใหญ่ตามกฎ ตราบใดที่รัฐธรรมนูญฉบับวัฒนธรรมไม่ถูกละเมิด การรัฐประหารก็คือการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลตามปกติ แต่เนื่องจากตำแหน่งพระมหากษัตริย์ไทยมีความสำคัญในการปกครองสูงเช่นนี้ จึงต้องมีการแย่งชิงราชสมบัติกันอยู่เนืองๆ เพื่อคัดเลือกกษัตริย์ที่เหมาะสม (เพื่อประโยชน์ของประเทศหรือประโยชน์ของขุนนาง)
ขึ้นเป็นกษัตริย์ จึงอาจกล่าวได้ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยในฐานะสถาบันมีความมั่นคงทางการเมืองสูง แต่ผู้ดำรงตำแหน่งอาจไม่มั่นคงเท่าสถาบัน เพราะอาจเกิดการแย่งชิงราชสมบัติเพื่อยกญาติฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขึ้นเป็นกษัตริย์แทนได้ง่าย
สนับสนุนโดย Ufabet เข้าสู่ระบบ