ประวัติศาสตร์ที่ได้ถูกค้นพบของชนเผ่าหัวสุนัข

By | มีนาคม 3, 2020

ประเทศอินเดียเพราะที่นี่นอกจากจะเป็นอารยธรรมอันเก่าแก่ที่ทำให้ชาวตะวันตกหลงไหลจนไม่อยากที่จะกลับบ้านเลยอีกทั้งยังประเทศอินเดียนั้นก็ยังมีเรื่องแปลกๆที่เคยถูกบันทึกว่ามันมีจริงอยู่เผ่าหนึ่ง

ชนเผ่าหัวสุนัข คาลิสทรี

นักฟิสิกส์คนหนึ่งที่มีชื่อว่าทีเชียส เขาได้ออกเดินทางไปที่ประเทศอินเดียและเขาก็ได้กลับถึงบ้านเกิดเมื่อช่วง500ปีก่อนคริสตกาลหลังจากนั้นที่เขาได้กลับมาบ้านแล้วแต่เขาไม่ได้กลับมาแค่เพียงมือเปล่าแต่เขานั้นยังได้นำเรื่องราวสุดแปลกเอากลับมาเล่าให้เพื่อนๆเขาได้อึ่งกันเขาได้เล่าไว้ในบันทึกว่าในตอนที่เขาอยู่ประเทศอินเดียนั้นเขาก็ได้ปีนเขามาแล้วหลายลูกและยังมีอีกที่หนึ่งที่เขานั้นได้เจอกับชนเผ่าที่แปลกประหลาดเขาได้เรียกชนเผ่านี้ว่า ชนเผ่าคาลิสทรี เป็นชนเผ่าที่มีส่วนหัวเป็นสุนัขพวกเขานั้นไม่มีภาษาพูดแต่เห่าราวกับสุนัขที่ทีเชียสได้บันทึกเอาไว้แบบนั้น

พวกเขาสามารถเข้าใจภาษาคนอินเดียได้ก็จริงแต่ก็จะพูดตอบกลับด้วยการเห่าหรือไม่ก็จะทำทาทางทำมือเป็นสัญลักษณ์แทนคำพูดจากนั้นในจำนวนของสุนัขดังกล่าวมันก็หน้าจะมีอยู่ในภาษาอินเดียอยู่ไม่มากสักเท่าไหร่ซึ่งโดยทีเชียสคาดว่า ชนเผาคาลิสทรี หน้าจะอาศัยอยู่ตามเทือกเขาของประเทศอินเดียอยู่ประมาณ120,000คนและในจุดที่แปลกที่สุดสำหรับเรื่องนี้ในเมื่อประมาณ200ปีก่อนซึ่งได้มีชายคนหนึ่งที่เห็นชนเผ่านี้จากนั้นเขาก็ได้ตามชนเผ่าหัวสุนัขไปถึงประเทศอินนเดียจากนั้นเขาก็ได้เดินทางกลับมาเล่าให้ฟังว่า เรื่องของ ชนเผ่าคาลิสทรี

นั้นมันเป็นเรื่องจริงซึ่งเขาได้บอกว่าเขาได้เห็นตัวจริงๆมาแล้วกับตาและนอกจากชาวกรีแต่ก็ยังมีชาวอินเดียและชนชาวจีนในสมัยราชวงค์คลังก็ได้จดบันทึกยืนยันว่าเรื่องชนเผ่าหัวสุนัขนั้นมันมีอยู่จริงแถวบริเวณประเทศทิเบตที่เรียกว่าสุปัญนาและหลังจากนั้นเมื่อ100ปีต่อมามาร์โค โปโลก็ได้ ก็ได้ยื่นยันว่าเขานั้นได้ไปเจอกับหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มองดูแล้วเหมือนกับ ชนเผ่าชาวคาลิสทรี พวกเขาได้อาศัยอยู่เกาะแห่งหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่าอังกามาเนย์โดยมาร์โค โปโลได้เขียนอย่างหนักแน่นว่าผมของรับลองเลยว่าผู้คนบนเกาะอังกามาเนย์ต่างก็มีศรีษะเหมือนกับสุนัขทั้งหมด

จะเห็นได้ว่าเรื่องราวที่เล่ามาทั้งหมดนั้นถือได้ว่าเป็นประวัติเกี่ยวกับสิ่งที่เรานั้นต้องการอยากที่จะรู้ดังนั้นถือว่าความเป็นมาเกี่ยวกับประวัติเป็นเรื่องที่ควรบันทึกไว้เป็นอย่างยิ่ง